มะค่าโมง

มะค่าโมง

มะค่าโมง ถือได้ว่าเป็นไม้ยืนต้นที่มีขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ และนิยมนำเนื้อไม้มาใช้ประโยชน์ในการก่อสร้างหรือแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เนื่องจากเนื้อไม้มีความแข็งแรง ทนทาน และมีสีสันที่สวยงาม มะค่าโมง จัดเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ที่จะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ก่อน หากต้องการตัด หรือนำมาแปรรูปเพื่อการค้าขาย วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับต้นมะค่าโมงกันให้มากขึ้น จะน่าสนใจแค่ไหน ไปติดตามพร้อมๆ กันเลย 

ดอกมะค่าโมง
https://www.thairath.co.th

ข้อมูลทั่วไปของต้นมะค่าโมง

  • ชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ “Afzelia xylocarpa (Kurz) Craib. T”
  • ชื่อสามัญ “Black rosewood, Pod mahogany”
  • ชื่อวงศ์ “Leguminosae”

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นมะค่าโมง

ลำต้น

ปลูกไม้มะค่า
https://puechkaset.com

มะค่าโมง จัดเป็นต้นไม้ที่มีขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ โดยลำต้นมีความสูงประมาณ 10-20 เมตร มีเรือนยอดเป็นพุ่มกว้างและแตกกิ่งก้านต่ำ ตั้งแต่ระดับล่างของลำต้น เปลือกของลำต้นจะมีสีน้ำตาลอมชมพูอ่อนและกิ่งจะมีขนปกคลุมอยู่ทั่วทั้งต้น

ใบ

เมล็ดมะค่าโมง
https://puechkaset.com

ลักษณะใบของมะค่าโมง มีลักษณะเป็นใบประกอบ ออกเรียงสลับกันที่กิ่งแขนง โดยก้านใบจะมีความยาวประมาณ 18-30 เซนติเมตร ใบประกอบย่อยขึ้นตรงข้ามประมาณ 3-5 คู่ โดยใบย่อยจะมีก้านใบสั้นประมาณ 3-5 มิลลิเมตร และมีรูปทรงไข่ฐานใบและปลายใบมน แผ่นใบเรียบ โดยแผ่นใบมีเส้นกลางใบที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนและมีขนาดความกว้าง 2.5 เซนติเมตร ยาว 4-7 เซนติเมตร และแผ่นใบจะมีสีเขียวเข้ม

ดอก

มะค่าโมง กี่ปีตัดได้
https://puechkaset.com

ดอกของมะค่าโมง จะออกดอกที่บริเวณช่อปลายกิ่ง ช่อดอกยาวประมาณ 5-15 เซนติเมตร โดยมีขนปกคลุมอยู่บางๆ ดอกย่อยจะมีก้านดอกยาว 7-10 มิลลิเมตร ส่วนดอกมีใบประดับเป็นรูปขอบขนานแกมรูปไข่ โดยมีความยาว 5-10 มิลลิเมตรและมีขนปกคลุมอยู่ทั่ว กลีบรองมีทั้งหมด 4 กลีบ โดยมีรูปขอบขนานเรียงทับซ้อนกันมีความยาว 10-12 มิลลิเมตร ส่วนกลีบดอกจะมีเพียงแค่กลีบเดียวเท่านั้น โดยมีรูปทรงกลม แผ่นกลีบดอกมีสีแดง ถัดมาจะเป็นเกสรตัวผู้ที่มีทั้งหมด 11 อัน  โดย 8 อันจะเป็นเกสรสมบูรณ์ ส่วนที่เหลืออีก 3 อันจะเป็นหมัน ก้านเกสรแยกออกจากกัน ส่วนเกสรตัวเมียจะมีขนปกคลุมยาวประมาณ 7 มิลลิเมตร ด้านล่างจะเป็นรังไข่ ดอกของมะค่าโมงจะออกในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม

ผล

มะค่าโมง ชื่อวิทยาศาสตร์

มะค่าโมงมีผล เรียกว่า ฝัก โดยมีลักษณะเป็นฝักแบนขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 7-10 เซนติเมตรและยาว 12-20 เซนติเมตร ฝักอ่อนจะมีสีเขียว ส่วนฝักแก่จะมีสีน้ำตาลและฝักแก่จะแตกออกเป็น 2 ซีก ด้านในมีเมล็ดประมาณ 2-5 เมล็ด เมล็ดมีลักษณะกลม เปลือกของเมล็ดมีสีดำและมีเยื่อหนา

ลักษณะเมล็ดคล้ายรูปฟันคน โดยมีความยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร และหุ้มบริเวณฐานเมล็ด จึงเรียกว่า ฟันฤๅษี โดยฝักจะแก่ประมาณช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม

มะค่าโมงมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ เช่น อินเดีย และสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในประเทศไทยของเรา ตั้งแต่ระดับความสูงประมาณ 150- 650 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล มะค่าโมงสามารถแพร่กระจายได้ทั่วหรือเจริญเติบโตได้ดีในป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรัง สามารถพบเจอได้ทั่วไปในทุกภาค ยกเว้นภาคใต้ โดยเฉพาะภาคอีสาน ภาคตะวันออกและภาคเหนือ ซึ่งมักเกิดขึ้นตามริมแม่น้ำหรือข้างลำห้วย 

ประโยชน์ของต้นมะค่าโมง

  • มะค่าโมงมีเนื้อไม้ที่แข็งแรง ทนทาน และมีลวดลายของเนื้อไม้ที่สวยงาม โดยเนื้อไม้จะมีสีน้ำตาลอมแดง นิยมนำไปใช้แปรรูปเป็นแผ่นพื้น หรือใช้ในการก่อสร้างบ้าน ทำเสาบ้าน ทำไม้ชายคาสำหรับก่อสร้าง รวมถึงใช้แปรรูปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
  • ฝักอ่อนของมะค่าโมงสามารถนำมาต้มรับประทานหรือนำมารับประทานเป็นของขบเคี้ยวคู่กับอาหารอื่นๆ ได้
  • เปลือกของมะค่าโมงจะมีรสฝาด นิยมใช้ในอุตสาหกรรมฟอกหนัง
  • เมล็ดแก่สามารถนำมาเผาไฟหรือคั่วรับประทาน โดยเนื้อของเมล็ดจะมีรสชาติมัน

สรรพคุณทางด้านสมุนไพรของต้นมะค่าโมง

มะค่าโมง จัดเป็นไม้อีกหนึ่งชนิดที่มีสรรพคุณทางด้านยาสมุนไพร ซึ่งสามารถรักษาโรคได้หลากหลายอาการ เช่น เปลือกของลำต้น สามารถนำมาต้มดื่ม ใช้สำหรับเป็นยาถ่ายพยาธิยา รักษาโรคริดสีดวง ยาแก้อาการท้องเสีย และรักษาโรคบิดนอกจากนั้นยังสามารถรักษาโรคผิวหนัง หรือใช้ทาเป็นยารักษาแผลพุพองต่างๆ ได้ สำหรับเมล็ดของมะค่าโมงสามารถนำมาต้มดื่มหรือนำเนื้อเมล็ดดิบมาหั่นเป็นฝอยต้มดื่ม ช่วยบรรเทาอาการอาเจียนได้ เป็นต้น

การปลูกต้นมะค่าโมง

สำหรับการปลูกต้นมะค่าโมงนั้น ข้อแนะนำคือ ควรปลูกด้วยต้นกล้าที่มีอายุประมาณ 8-12 เดือน และต้องปลูกในต้นฤดูฝน เพื่อให้ต้นสามารถเจริญเติบโตได้ดี ช่วยให้รากแข็งแรงสามารถตั้งตัวได้ ระยะที่ใช้ปลูกคือ 6-8 x 6-8 เมตร และควรใช้ฟางข้าวหรือเศษใบไม้มาปกคลุมที่บริเวณโคนต้น เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้น ทั้งนี้ อัตราการเจริญเติบโตของต้นมะค่าโมง หากปลูกแล้ว 1 ปี จะมีความสูงโดยเฉลี่ยประมาณ 2.5 เมตร และโดยทั่วไปการขยายตัวของเส้นรอบวงจะน้อยกว่า 1 เซนติเมตรต่อปี มะค่าโมงจะมีอายุการตัดฟันที่เหมาะสม สำหรับใช้ประโยชน์ในการก่อสร้างคือ มีอายุประมาณ 25-30 ปีขึ้นไป

การขายพันธุ์ต้นมะค่าโมง

การขยายพันธุ์มะค่าโมง วิธีที่ได้รับความนิยมและสะดวกมากที่สุด ก็คือ การขยายพันธุ์จากการเพาะเมล็ด แต่เนื่องจากเมล็ดของมะค่าโมงจะมีเปลือกที่แข็งมาก หากนำเมล็ดไปเพาะชำเลย อาจทำให้เกิดการงอกที่ช้าและต้องใช้เวลานานดังนั้น ก่อนนำเมล็ดไปเพาะควรขลิบเปลือกของเมล็ดตรงส่วนหัวออกก่อน เพื่อให้เห็นเนื้อด้านในเพียงเล็กน้อย หลังจากนั้นนำไปแช่น้ำเป็นระยะเวลาหนึ่งคืน ก่อนนำไปหว่านลงในแปลงดินที่เตรียมไว้ ดินเพาะชำควรเป็นดินปนทรายอัตราส่วน 1 : 1 และหว่านเมล็ดให้มีความหนาประมาณ 0.5-1.0 เซนติเตร สำหรับการให้น้ำในแปลงนั้น ช่วงระยะแรกควรให้น้ำวันละ 2 ครั้ง คือทุกๆ เช้าและเย็น นอกจากนั้นควรผสมยาเพื่อป้องกันเชื้อรากับน้ำที่ใช้รดในช่วงแรกๆ ด้วย เมื่อระยะเวลาผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ เมล็ดจะงอกและเริ่มมีใบสามารถย้ายลงถุงพลาสติกที่เตรียมดินไว้ และรอให้มีระยะเวลาต้นกล้าแข็งแรงตามความเหมาะสม หรือให้ต้นกล้ามีอายุประมาณ 8-12 เดือนขึ้นไป จึงสามารถย้ายลงไปปลูกในแปลงดินได้

การบำรุงรักษาต้นมะค่าโมง

ในส่วนของการบำรุงรักษา ก่อนปลูกควรทำความสะอาดแปรงและไถพรวนดิน ข้อควรระวังคือ เรื่องของโรคและแมลง โดยเฉพาะแมลงปีกแข็ง ซึ่งมักจะกัดกินเมล็ดหรือตัวตุ่นและจิ้งหรีด ที่คอยกัดกินราก อาจทำให้ต้นล้มตายได้ มะค่าโมงมี อัตราการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างช้า และชอบแสงแดดครึ่งวันส่วนปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การปลูกคือ มะค่าโมงเป็นต้นไม้ที่ชอบดินร่วนและดินนั้นจะต้องสามารถระบายน้ำได้ดีด้วย เพื่อให้มีอัตราการเจริญเติบโตที่รวดเร็วและมีลำต้นที่แข็งแรง

มะค่าโมงจัดเป็นไม้ที่มีค่าทางเศรษฐกิจชนิดหนึ่งของประเทศไทย ในขณะเดียวกันก็มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปตามท้องที่ต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น จังหวัดจันทบุรีจะเรียกว่า “ต้นปิง” ส่วนนครราชสีมาเรียกว่า “ต้นปิ่น” โดยทั่วไปแล้วชาวภาคกลางจะเรียกว่า “มะค่าโมง” หรือ “มะค่าใหญ่” ส่วนภาคเหนือเรียกว่า “มะค่าหลวง” หรือ “มะค่าหัวดำ”

ต้นกล้ามะค่าโมง

ทั้งหมดนี้ คือ สาระที่น่ารู้และข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับต้นมะค่าโมง ทั้งในเรื่องของข้อมูลโดยทั่วไป ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ประโยชน์สำหรับการใช้งาน โดยเฉพาะการนำเนื้อไม้มาแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือใช้ในการก่อสร้างบ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเนื้อไม้มะค่าโมงมีความแข็งแรง ทนทาน อีกทั้งยังมีลวดลายที่สวยงาม อย่างไรก็ตาม มะค่าโมงนั้นจัดเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วในตอนต้น ซึ่งจะต้องมีการขออนุญาตก่อนทุกครั้งที่มีการตัดฟันหรือนำมาแปรรูปเพื่อค้าขาย นอกจากประโยชน์ในการนำเนื้อไม้มาใช้งานแล้ว มะค่าโมงยังมีสรรพคุณในด้านของยาสมุนไพรไทย ที่สามารถรักษาโรคได้หลากหลายอาการและถูกใช้ประโยชน์มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

มะค่าโมง ไม้ยืนต้นที่มีขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ ขึ้นชื่อว่าเป็นไม้ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจและมีราคาสูงไม่แพ้ไม้สัก หรือไม้พยุงเลยทีเดียว หากใครที่ต้องการปลูกไม้มะค่าโมง สามารถใช้วิธีการเพาะเมล็ดหรือสามารถหาซื้อต้นกล้าได้จากร้านขายพันธุ์ไม้ทั่วไป ตลอดจนสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ แต่ก็ต้องคำนึงถึงการเลือกร้านจำหน่ายพันธุ์ไม้ที่ต้องมีความน่าเชื่อถือ รวมทั้งระบบการขนส่งที่มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด

ที่มา

https://puechkaset.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *